*** เปิดประเด็นด้วยโพสว่าต่อไป จะเป็นไดอารี่สำหรับการเขียนบันทึกประจำวัน (ถ้าไม่ลืม) ***
ในที่สุดก็ถึงเวลาปรับสภาพอาหารในการลดน้ำหนักเพื่อให้ลงต่ำกว่า 100 ให้จงได้ ตอนนี้ก็หนักอยู่นะ เพราะปล่อยตัวมา สองเดือนสามเดือนได้ เห็นคนอื่นเค้าซื้อเสื้อผ้ากันแล้ว น่าอิจฉาเนอะ ทำไมเค้าหยิบปั๊บซื้อได้เลย ก็เพราะว่าเค้าหุ่นดีไง มีไซต์ไง เค้าเลยหยิบ แล้วซื้อได้เลย ไอ้เรานี่ ลุ้นกับในเวปว่าจะส่งมาตรงตามที่อยากได้ไม๊ ไม่ได้ลองใส่ด้วย ถ้าใหญ่ ก็ใหญ่โตไปเลย ถ้าเล็ก ก็เล็กได้ใจไปเลย ยัดได้แค่ขา 555 น่าสงสารตัวเองไม๊ล่ะ... มาถึง ณ จุด ๆ นี้ ก็ได้เวลาในการปรับอาหาร และลดน้ำหนักเหมือนเดิมแล้ว นี่ไง เริ่มมาได้สองวัน อาการโหยๆ เริ่มมาแล้วเนี่ย ต่อไปก็จะมาบันทึก และเขียนในนี้ถี่ขึ้นหน่อย เพราะมันไม่ได้เผยแพร่ไปทางไหนให้ใครได้เห็นไงล่ะ google+ ก็ปิดการแชร์ออกไปแล้วด้วย มีนาคม 2019 ก็ปิดใช้งานละ ส่วนใน blogger นี่ก็ปรับเอาปุ่มกด +1 ออกไปแล้ว ก็แปลว่ามันไม่แชร์แล้ว หรือเปล่า? ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เวลาโพสทีไรก็ไม่ได้กดให้มันแชร์นะ หรือมันแชร์อัตโนมัติหว่า ช่างมันเถอะนะ
นับจากวันนี้ก็หุงข้าวไรท์เบอร์รี่กินต่อ อกไก่อีกตามเคย ไข่ต้ม ไข่ทอด ไข่คน สารพัดเมนูไข่ กินได้สบายๆ ขอเป็นปรับกระเพาะซักหน่อย แล้วค่อยปรับเรื่องอาหารการกิน ว่าจะคุมไปทางไหน ระหว่างคลีน กับคีโต ... ใจจริงๆ ก็อยากคีโตนะ ของโปรดเยอะด้วย กินแล้วสบายๆ หรือจะกินๆ ปนกันไปก็น่าจะได้อยู่หรอก ไม่น่าจะยุ่งยากอะไร ไขมันล้วนๆ 555
1 เดือนนับจากวันนี้ มาลองดูผลกันว่า 110 จะลงเหลือเท่าไหร่ สามารถกดลงไปจนได้ถึง 100 หรือเปล่า โห สิบโล โหดนะเนี่ย เออ เอาวะ มาลองดูกัน ให้มันรู้กันไป "ว่าจะทำไม่ได้ รักตัวเองเพิ่มขึ้น"
Blog เพื่อบันทึกความจำต่างๆ ที่น่าจดจำ และไม่น่าจดจำทั้งหลาย เพื่อการศึกษานะ
วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
น้องทับทิมกรอบ ในที่สุดก็มา
ศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2561 หลังจากที่เฝ้าดูอยู่นาน จนในที่สุด ก็ตัดสินใจได้ว่า เออ เอามาเหอะ มันใช้แค่ไปทำงาน รับส่งลูก ไม่ได้อะไรมากมาย อนาคต ลูกชายก็เอาไปใช้ได้ เท่านั้นเอง ไม่ต้องคิดเยอะ จัดไป ใกล้ ไกล ค่อยๆ ไป ไม่ต้องรีบ เป็นการปรับอารมณ์ และสมาธิ ได้อย่างดี ลดความใจร้อนลงได้มาก เพราะความเร็ว มันน่ากลัว!!!
วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2561
Windows 10 ติดตั้ง keyboard UK เพิ่มขึ้นมาเอง (วิธีลบ)
หลังจากที่อัพเดทแบบ auto เอาไว้ ปัญหาก็เกิดสิครับ ไอ้ระบบมันดันดาวโหลดภาษาอังกฤษ UK ใส่มาให้ด้วย ทั้งๆ ที่เครื่องเรามี US อยู่แล้ว เวลาจะใช้งานมันเลยมีภาษาอังกฤษ สองตัว ไทยอีกตัว เหมือนมีคีย์บอร์ด สามอัน เวรกรรม หาวิธีลบในเมนูก็แล้วอะไรก็แล้ว หาไม่เจอ เลยต้องไปค้นหาวิธีดู ได้มาตามนี้ เคลียร์สุดแล้ว ทาง MS แจ้งว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากได้อัพเดท Windows 10 เวอร์ชั่น 1803 สามารถเเก้ปัญหาได้โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
ต้องอธิบายเป็นบรรทัดๆ ไม๊วะ ว่าจะทำอะไรกะมันบ้าง เออ นะ เดี๋ยวจะว่า ไม่ได้บอกไม่ได้เล่าอีก ว่ากันไป - -" อันดับแรก เปิด Windows PowerShell ขึ้นมา ด้วยการคลิกขวาแล้วเลือก Run as Administrator เออ คงไม่ต้องบอกเนอะ ว่ามันจะเอาไปตรงไหน -_-
Get-WinUserLanguageList กด Enter
เรียกระบบภาษาของ user ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันขึ้นมาดูว่ามีอะไรบ้าง
$LangList = Get-WinUserLanguageList กด Enter
ตั้งค่าตัวแปรขึ้นมาตัวนึงชื่อ $LangList (ถ้าขี้เกียจก็เอาซื่อๆ $1 เลยก็ได้) เก็บการเรียกระบบภาษา
$MarkedLang = $LangList | where LanguageTag -eq "en-GB" กด Enter
กำหนดตัวแปร $MarkedLang (ถ้ายาวก็ $2) ประมาณว่า mark เอาไว้ว่าจะเอาอันไหนตามหัวข้อที่กำหนดเอาไว้ เช่นอันนี้มีคำว่า en-GB ในหัวข้อของ LanguageTag (ดูจาก list ในคำสั่งแรก) "จะเอาไรออก mark อันนั้น จบ"
หมายเหตู : หากคุณต้องการ Remove ภาษาอื่นที่นอกเหนือจาก ( English- United Kingdom ) คุณสามารถเปลี่ยน Code "en-GB" ตาม Code ในลิงค์ > https://msdn.microsoft.com/en-us/library/cc233982.aspx?ppud=4คุณสามารถดู Code ภาษาที่จะเปลียนในช่อง Language tag
$LangList.Remove($MarkedLang) กด Enter
เรียกตัวแปร พร้อมคำสั่ง Remove ตัวภาษาที่ไม่ต้องการออกไป
Set-WinUserLanguageList $LangList –Force กด Enterหลังจากทำเสร็จแล้ว ให้ทำการ Restart เครื่องทันที ระบบก็จะทำการ set ค่าต่างๆ ของ windows user ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ให้มีเพียงแค่ 2 ภาษา จ๊บ
กำหนดค่าให้ระบบภาษาของ user ระบบในปัจจุบัน ให้มีเฉพาะในรายการเท่านั้น
วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2561
วันที่ 3 ของการใช้ S9+
วันที่สามที่ใช้งานเครื่อง ต้องพิมพ์ช้าๆ ออกแรงกดหน่อย เพราะว่ากระจกมันค่อนข้างหนา ทำให้กดพิมพ์ได้ยากกว่าปกติ แล้วมันลื่นมากกกก บางครั้งก็เลื่อนไปกดตัวอื่นไปซะงั้น ลองไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ชินเองแหละ เนอะ
วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
เมื่อเอารถมาล้างไอดิน แล้วเจอฝรั่งอิตาเลี่ยนถามทาง!!!
เป็นอีกวันที่เอารถมาล้างที่ไอดิน แล้วได้พบเจอกับฝรั่งคนนึงขี่มอเตอร์ไซต์มาถามทางกับทางร้าน ด้วยความหวังดี จึงช่วยเหลือเพื่อไม่ให้เสียความเป็นคนไทยน้ำใจดี ปรากฏว่าไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ไม่มากนัก เพราะนายดันเป็นอิตาเลี่ยน และดูแล้วนายไม่ถนัดการใช้งานมือถือเอามากๆ หรือไม่ก็เป็นคนที่รักษากฎหมาย เพราะนายจะฟังการแนะนำอย่างเดียว ไม่มองมือถือเลย โห ประเทศเค้านี่ มีระเบียบจริงๆ นายคนนี้ต้องการที่จะไป bus station ซึ่งเราก็รีบอธิบายอย่างรีบด่วน เพราะต้องการจะไปเชียงใหม่ภายในเย็นนี้ ทาาทางเย็นนี้ คงจะไม่ได้ไปแล้วล่ะ ดูแล้วเนี่ย เหมือนแกจะหลงๆ มาตามที่ทางโรงแรมบอก ซึ่งเลยมาจนจะถึงบ้านสวนอยู่แล้ว จนทนไม่ไหว เพราะคุยกันไม่เข้าใจได้ซักที เลยกลับไปโรงแรม เพื่ออถามทางอีกรอบ เฮ้อ นี่ละนะ ภาษาอังกฤษว่าแย่แล้ว ภาษาอื่น ไม่ต้องพูดถึง ชาตินิยมจริงๆ เรา ไทยอย่างเดียวจริงๆ!!
วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2560
วิธีใช้งาน Serial Port บน Linux
จากการที่ได้ทดลองใช้งาน config อุปกรณ์หลายๆ อย่างทางด้าน network วิธีแก้ปัญหาด้านการ config คือการใช้งาน console port แทนการใช้งาน config ด้วย ip ซึ่งจะเด้งหลุดออกมาบ่อย เนื่องจากการ config ip สำหรับการใช้งาน serial port ผ่าน computer desktop สามารถเข้าไปดูได้ที่ Device Manger ว่า serial port อยู่ port ที่เท่าไหร่ ซึ่งจะเอามาใช้งานที่ตัวโปรแกรม putty ได้เลย
เช่นตัวอย่าง มีทั้ง Com1 Com2 ที่มี port ติดมาให้กับเครื่อง desktop และมี USB Serial Port ที่เสียบเพิ่มเป็น Com4 เพิ่มขึ้นมาด้วย ส่วนใหญ่ใช้งานกับเครื่องที่ไม่มี serial port มาให้ รวมถึง notebook ด้วย
หากต้องการใช้งาน serial port บน linux ต้องใช้งานในสถานะของ root เท่านั้น (ผ่าน command line) ไม่อย่างนั้นต้องไปกำหนด chmod port นั้นๆ ให้สามารถใช้งานด้วยผู้อื่นได้ เช่นผ่านโปรแกรม putty ต้องกำหนดให้เป็น 666 จากเดิม 600
วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560
การ Upgrade Firmware SG500X-24 ด้วย tftp
หลังจากที่อัพเกรด switch cisco sg500x-24 ไปแล้วตัวนึง นานมากกกก ก็ลืมเขียนเอาไว้ จนวันนี้มานั่งทำอีกตัวนึงที่เหลือ เงิบเลย ไปไม่เป็นเลย วิธีการอัพ ซึ่งการอัพหลังจากเวอร์ชั่น 1.2.x++ ไปแล้ว ไม่สามารถอัพได้ผ่านหน้า webgui ต้องผ่านทางระบบ tftp เท่านั้น และเขียนลง image ทับลงไปแทนของเดิม แล้วค่อย active ตัวที่อัพอีกที
จากที่ได้ทดลองอัพแล้ว ไม่ผ่าน!!~ ก็เลยต้องไปอ่าน manual ในการอัพ ... ผลที่ได้คือ ต้องอัพไล่เวอร์ชั่นตามที่ระบุเอาไว้ ซึ่ง ก็ไม่ได้จะต้องอัพทุกอัน แต่จะมีบาง firmware ที่ต้องอัพเกรดก่อน ถึงจะอัพเวอร์ชั่นถัดไปได้ .... เอาซะหมดวัน วันนี้เลยมาเขียนคำสั่งเก็บเอาไว้ เผื่อวันข้างหน้า มันอัพเกรดอีก ก็จะได้อัพได้ เพราะเขียนเอาไว้เองนี่แหละ เฮ้อ มา เริ่มกันเลย ขั้นแรก รันโปรแกรม Open TFTP Server รอไว้ และเอาไฟล์ firmware ที่ดาวโหลดมา ใส่ไว้ใน folder ก่อน และต่อสาย console (ผมใช้สาย console โดยใช้ putty ในการรีโมท) ต่อสายกับ port com1 เสร็จแล้วต่อด้วยความเร็ว 115200kbps อย่าลืม ตั้ง backspace เป็น ctrl+H นะ เดี๋ยวจะกดไม่ได้ (ลืมประจำ) เมื่อเข้าได้แล้ว ให้ใส่ user password ที่ตั้งเอาไว้ หรือถ้าเป็นเครื่องใหม่ หรือเครื่องที่ reset ก็ใช้ cisco เป็นทั้ง user pass
ใช้คำสั่งในการดู version ว่าปัจจุบันใช้เวอร์ชั่นไหน และสำรองเวอร์ชั่นอะไร
default ip : 192.168.1.254
user : cisco
password : cisco
จากที่ได้ทดลองอัพแล้ว ไม่ผ่าน!!~ ก็เลยต้องไปอ่าน manual ในการอัพ ... ผลที่ได้คือ ต้องอัพไล่เวอร์ชั่นตามที่ระบุเอาไว้ ซึ่ง ก็ไม่ได้จะต้องอัพทุกอัน แต่จะมีบาง firmware ที่ต้องอัพเกรดก่อน ถึงจะอัพเวอร์ชั่นถัดไปได้ .... เอาซะหมดวัน วันนี้เลยมาเขียนคำสั่งเก็บเอาไว้ เผื่อวันข้างหน้า มันอัพเกรดอีก ก็จะได้อัพได้ เพราะเขียนเอาไว้เองนี่แหละ เฮ้อ มา เริ่มกันเลย ขั้นแรก รันโปรแกรม Open TFTP Server รอไว้ และเอาไฟล์ firmware ที่ดาวโหลดมา ใส่ไว้ใน folder ก่อน และต่อสาย console (ผมใช้สาย console โดยใช้ putty ในการรีโมท) ต่อสายกับ port com1 เสร็จแล้วต่อด้วยความเร็ว 115200kbps อย่าลืม ตั้ง backspace เป็น ctrl+H นะ เดี๋ยวจะกดไม่ได้ (ลืมประจำ) เมื่อเข้าได้แล้ว ให้ใส่ user password ที่ตั้งเอาไว้ หรือถ้าเป็นเครื่องใหม่ หรือเครื่องที่ reset ก็ใช้ cisco เป็นทั้ง user pass
ใช้คำสั่งในการดู version ว่าปัจจุบันใช้เวอร์ชั่นไหน และสำรองเวอร์ชั่นอะไร
show versionจากนั้น ให้ทำการอัพเกรด boot ก่อน
copy tftp://<tftp server/path/to/bootimage.rfb bootเมื่ออัพเกรดบูทเสร็จแล้ว ให้เช็คด้วยคำสั่ง show version ว่าเป็นเวอร์ชั่นที่อัพหรือไม่ แล้วรันคำสั่ง
wr # write ลงเครื่องเพื่อ savereload # โหลดระบบใหม่เป็นการ rebootเมื่อทำเสร็จแล้วให้เริ่มอัพเกรด firmware ต่อเลย
copy tftp://<tftp server/path/to/firmware.ros imageเมื่อเสร็จแล้ว ก็ทำการเขียนลงระบบเอาไว้
wr # write ลงเครื่องเพื่อ savereload # โหลดระบบใหม่เป็นการ rebootเท่านี้ ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ เริ่มเข้าไปทำการ config ระบบได้เลย
default ip : 192.168.1.254
user : cisco
password : cisco
วันอังคารที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2560
การใช้งาน Smart Card บน Ubuntu, LinuxMint (Dabian)
หลังจากที่ทางกระทรวง ได้มีการพัฒนาการใช้งาน smart card ในการ login เข้าสู่ระบบแล้ว เนื่องจากไฟล์การใช้งาน และการติดตั้งนั้น มีไว้เฉพาะ windows เท่านั้น ซึ่งจะต้องมีการติดตั้ง java เพื่อเรียกใช้งานด้วย สามารถใช้ได้ทั้ง JDK และ JRE (ปกติ user ทั่วไปใช้ JRE) แต่ทีนี้ปัญหาก็คือ สำหรับผู้พัฒนาบางคน (เช่นผม) ใช้งาน linux desktop เพื่อใช้ในการ config network หรือ server ที่ให้บริการ จึงทำให้ต้องมาหาวิธีเพื่อทำให้ smart card มันใช้งานบน linux desktop ได้ด้วย ก็ค้นๆ หาๆ จนไปเจอในเวปนี่ล่ะ - -" จำไม่ได้เพราะ copy เอาไว้แต่คำสั่ง ขออภัยจริงๆ ไม่รู้จะอ้างถึงที่มาจากตรงไหน แต่พูดได้เต็มปากว่า copy เค้ามานะครับ มาเริ่มกันเลย
ติดตั้ง package สำหรับใช้งาน smart card ซึ่งไม่ได้ใช้งานจากตัวติดตั้งที่ดาวโหลดมาจากเวป hdc นะครับ ใช้ในตัวของ ubuntu,mint ไปได้เลย มันใหม่กว่า
ติดตั้ง java ในกรณีที่ยังไม่ได้ติดตั้ง สามารถเลือกใช้งานได้ทั้ง JRE หรือ JDK ถ้าเป็นผู้พัฒนาแอพ จากนั้นให้ทำการเรียกใช้งาน
** ถ้าหากเรียกใช้งานบ่อย ให้ทำไฟล์ shell script เอาไว้เรียกจะสะดวกเวลาใช้งานมากกว่า
หลังจากที่เรียกใช้งานได้แล้ว ก็เข้าสู่ HDC ได้โดยใช้งานบัตรประชาชนครับ เมื่อใช้งานเสร็จ ก็ปิดหน้าต่าง shell script ที่เปิดอยู่ หรือกด Ctrl+c เพื่อยกเลิกแล้ว exit ออก เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานได้แล้วล่ะครับ
ติดตั้ง package สำหรับใช้งาน smart card ซึ่งไม่ได้ใช้งานจากตัวติดตั้งที่ดาวโหลดมาจากเวป hdc นะครับ ใช้ในตัวของ ubuntu,mint ไปได้เลย มันใหม่กว่า
sudo apt install pcscd pcsc-toolsหลังจากนั้น เสียบ smart card กับเครื่องคอม แล้วก็เสียบบัตรประชาชนเพื่อทดสอบว่าสามารถใช้งานได้ด้วยคำสั่ง
sudo pcsc_scanถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด จะมีการแสดงรายละเอียดของบัตรขึ้นมาให้เห็น ก็แสดงว่าสามารถอ่านบัตรได้แล้ว ให้กด Ctrl+c ยกเลิกการทดสอบ
ติดตั้ง java ในกรณีที่ยังไม่ได้ติดตั้ง สามารถเลือกใช้งานได้ทั้ง JRE หรือ JDK ถ้าเป็นผู้พัฒนาแอพ จากนั้นให้ทำการเรียกใช้งาน
java -Dsun.security.smartcardio.library=/lib/x86_64-linux-gnu/libpcsclite.so.1 -jar javadaemon.jar 8080อย่าลืมเข้าไปอยู่ใน path ที่เอามาจาก windows ด้วยนะ โดยปกติอยู่ใน SmartCard/printdaemon
** ถ้าหากเรียกใช้งานบ่อย ให้ทำไฟล์ shell script เอาไว้เรียกจะสะดวกเวลาใช้งานมากกว่า
หลังจากที่เรียกใช้งานได้แล้ว ก็เข้าสู่ HDC ได้โดยใช้งานบัตรประชาชนครับ เมื่อใช้งานเสร็จ ก็ปิดหน้าต่าง shell script ที่เปิดอยู่ หรือกด Ctrl+c เพื่อยกเลิกแล้ว exit ออก เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานได้แล้วล่ะครับ
วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2560
ให้ userdir ใช้งาน php ได้ เป็นคนๆ ไป
<IfModule mod_userdir.c>
<Directory /home/*/public_html>
php_admin_value engine Off
</Directory>
# เพิ่มเป็น user ไป
<Directory /home/your_user_name/public_html> php_admin_value engine On </Directory> </IfModule>
อนุญาตให้เป็นคนๆ ไป ให้เพิ่มตัวนี้ ถ้า user ไหนไม่ได้ใช้งาน php ก็ไม่ต้องเพิ่ม
วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2560
เพิ่มพื้นที่ให้ /boot
To free up space on the root file system you can try to execute
apt-get clean
.
If that doesn't work you can go to /var/cache/apt/archives and manually remove a few files from the cache to get some space back, e.g.:
sudo rm linux-headers-*
It won't hurt to remove all of the .deb files here if you need to--that is what
apt-get clean
does. They will be automatically be re-downloaded by apt if they are again needed.Freeing Up Space on the /boot File System
The Original Poster has a separate /boot partition, and that is what is full and preventing the apt system from working. It will be necessary for him to free up space there.
If there almost enough space, go to /boot and remove a config file or two:
sudo rm config-3.2.0-19-generic-pae
for example, but using the name of one of the kernel versions you intend to remove anyway. This will free up a little space (about 144K apiece).
If you need more space individually remove old vmlinuz initrd, abi and System.map files until you have enough space (about 22 megs for one of my i386 kernel versions).
Whatever you do, don't remove them all. You should at least keep the latest two matching versions of each kind of file, for each kind of kernel you use.
Then proceed with your apt-get install commands. As mentioned above they may have to re-download some of the debs you deleted, but if so that will happen automatically. When you have apt working again, clean up by using apt-get to remove the packages corresponding to the files you removed--so everything matches.
The config file in /boot is the kernel config that was used by the kernel team to build the kernel of the same name. It should be harmless to remove unless you want it for reference or to aid you in building your own kernels.
Finally you are manually removing an old kernel package or two from the /boot partition to make even more room for the new one.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)