หน้าเว็บ

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Hardware แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Hardware แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2560

วิธีใช้งาน Serial Port บน Linux

จากการที่ได้ทดลองใช้งาน config อุปกรณ์หลายๆ อย่างทางด้าน network วิธีแก้ปัญหาด้านการ config คือการใช้งาน console port แทนการใช้งาน config ด้วย ip ซึ่งจะเด้งหลุดออกมาบ่อย เนื่องจากการ config ip สำหรับการใช้งาน serial port ผ่าน computer desktop สามารถเข้าไปดูได้ที่ Device Manger ว่า serial port อยู่ port ที่เท่าไหร่ ซึ่งจะเอามาใช้งานที่ตัวโปรแกรม putty ได้เลย


เช่นตัวอย่าง มีทั้ง Com1 Com2 ที่มี port ติดมาให้กับเครื่อง desktop และมี USB Serial Port ที่เสียบเพิ่มเป็น Com4 เพิ่มขึ้นมาด้วย ส่วนใหญ่ใช้งานกับเครื่องที่ไม่มี serial port มาให้ รวมถึง notebook ด้วย

หากต้องการใช้งาน serial port บน linux ต้องใช้งานในสถานะของ root เท่านั้น (ผ่าน command line) ไม่อย่างนั้นต้องไปกำหนด chmod port นั้นๆ ให้สามารถใช้งานด้วยผู้อื่นได้ เช่นผ่านโปรแกรม putty ต้องกำหนดให้เป็น 666 จากเดิม 600







วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560

การ Upgrade Firmware SG500X-24 ด้วย tftp

หลังจากที่อัพเกรด switch cisco sg500x-24 ไปแล้วตัวนึง นานมากกกก ก็ลืมเขียนเอาไว้ จนวันนี้มานั่งทำอีกตัวนึงที่เหลือ เงิบเลย ไปไม่เป็นเลย วิธีการอัพ ซึ่งการอัพหลังจากเวอร์ชั่น 1.2.x++ ไปแล้ว ไม่สามารถอัพได้ผ่านหน้า webgui ต้องผ่านทางระบบ tftp เท่านั้น และเขียนลง image ทับลงไปแทนของเดิม แล้วค่อย active ตัวที่อัพอีกที

จากที่ได้ทดลองอัพแล้ว ไม่ผ่าน!!~ ก็เลยต้องไปอ่าน manual ในการอัพ ... ผลที่ได้คือ ต้องอัพไล่เวอร์ชั่นตามที่ระบุเอาไว้ ซึ่ง ก็ไม่ได้จะต้องอัพทุกอัน แต่จะมีบาง firmware ที่ต้องอัพเกรดก่อน ถึงจะอัพเวอร์ชั่นถัดไปได้ .... เอาซะหมดวัน วันนี้เลยมาเขียนคำสั่งเก็บเอาไว้ เผื่อวันข้างหน้า มันอัพเกรดอีก ก็จะได้อัพได้ เพราะเขียนเอาไว้เองนี่แหละ เฮ้อ มา เริ่มกันเลย ขั้นแรก รันโปรแกรม Open TFTP Server รอไว้ และเอาไฟล์ firmware ที่ดาวโหลดมา ใส่ไว้ใน folder ก่อน และต่อสาย console (ผมใช้สาย console โดยใช้ putty ในการรีโมท) ต่อสายกับ port com1 เสร็จแล้วต่อด้วยความเร็ว 115200kbps อย่าลืม ตั้ง backspace เป็น ctrl+H นะ เดี๋ยวจะกดไม่ได้ (ลืมประจำ) เมื่อเข้าได้แล้ว ให้ใส่ user password ที่ตั้งเอาไว้ หรือถ้าเป็นเครื่องใหม่ หรือเครื่องที่ reset ก็ใช้ cisco เป็นทั้ง user pass

ใช้คำสั่งในการดู version ว่าปัจจุบันใช้เวอร์ชั่นไหน และสำรองเวอร์ชั่นอะไร
show version
จากนั้น ให้ทำการอัพเกรด boot ก่อน
copy tftp://<tftp server/path/to/bootimage.rfb boot
เมื่ออัพเกรดบูทเสร็จแล้ว ให้เช็คด้วยคำสั่ง show version ว่าเป็นเวอร์ชั่นที่อัพหรือไม่ แล้วรันคำสั่ง
wr            # write ลงเครื่องเพื่อ savereload     # โหลดระบบใหม่เป็นการ reboot
เมื่อทำเสร็จแล้วให้เริ่มอัพเกรด firmware ต่อเลย
copy tftp://<tftp server/path/to/firmware.ros image
เมื่อเสร็จแล้ว ก็ทำการเขียนลงระบบเอาไว้
wr            # write ลงเครื่องเพื่อ savereload     # โหลดระบบใหม่เป็นการ reboot
เท่านี้ ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ เริ่มเข้าไปทำการ config ระบบได้เลย

default ip : 192.168.1.254
user : cisco
password : cisco











วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Switch L3 HP การ config อุปกรณ์สำหรับใช้งานเอง

การกำหนดค่า config ของ switch โดยการ reset ค่าเริ่มต้นมาจากโรงงานและทำการต่อผ่าน port console สำหรับ config ในครั้งแรก ซึ่งให้กำหนดค่าของ ip vlan 1 ซึ่งเป็น vlan default ของ switch เช่น 192.168.1.8
การกำหนด ip นี้ ให้กำหนดตรงกันกับ gateway ที่จะใช้งาน เพราะจะต้องใช้เป็นเส้นทางเข้า-ออก อธิบายแบบบ้านๆ ง่ายดีไม๊ครับ 555 เช่น ถ้า router gateway เป็น 192.168.1.1 ก็กำหนดให้ vlan 1 มี ip 192.168.1.2 และกำหนดให้ vlan 1 นั้นอยู่ที่ port 24 และทำการต่อสายแลนระหว่าง router lan1 -> switch port 24 แล้วทดลองปิงดูครับ ถ้าเห็นก็ถือว่า ใช้งานได้แล้ว แค่นี้เอง ง่ายไม๊ บางข้อผมไม่อธิบายเพราะ ผมก็ยังไม่เข้าใจ และเห็นว่ามันมีอยู่แล้ว ขอไปศึกษาที่หลัง เอาเฉพาะที่ใช้งานก่อนนะครับ

ต่อสาย console เชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ และ switch พิมพ์คำสั่งทีละบรรทัด

(ดูการกำหนดค่าต่างๆ ก่อนด้วย display current-configuration แล้ว copy มาไว้ใน text file เพื่อให้อ่านง่าย และสามารถไล่ดูคำสั่งที่กำหนดไปแล้วจากนั้นก็ทำตาม ทีละบรรทัด)

system-view (เข้าสู่โหมด config อุปกรณ์)
sysname switch-L3-HP (กำหนดชื่อของอุปกรณ์)
domain default enable system (กำหนดค่าโดเมนปกติ)
super password level 3 cipher ใส่รหัสที่ต้องการ (กำหนดรหัสผ่าน super)
telnet server enable (เปิดให้ใช้งาน telnet ได้)
ssh server enable (เปิดให้ใช้งาน ssh ได้)

(คำสั่งพวกนี้ มีอยู่แล้ว ให้ตรวจสอบจากคำสั่ง display current-configuration ถ้ามีแล้ว ไม่ต้องพิมพ์ เดี๋ยวคำสั่งมันซ้ำซ้อนกัน)

domain system
access-limit disable
state active
idle-cut disable
self-service-url disable

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ย้าน และปรับระบบ server

ทำการย้าย server จาก hardware ไปลง vm ที่ sever esxi ทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องบริหารจัดการเยอะ มากเหมือนคงแยกเครื่อง ตอนนี้ ย้ายได้สามระบบแล้ว แต่ ยังไม่สมบูรณ์ 100%  จบงานไปที่เครื่อง www และ ict ในส่วน intranet และ mail server ยังไม่ได้จัดการ เพราะว่ายังเลิก mail service ได้ไม่ถูกใจ และระบบป้องกัน ต้องมากหน่อย เพื่อความไม่ประมาท แต่หลักๆ จะใช้งานในส่วนของ moph.mail.go.th เพราะใช้ในการติดต่อประสานงานมากกว่าเรื่องส่วนตัว ก็ดีไปอีกอย่าง แบ่งเมล์เป็นอย่างๆ ไป จะได้ไม่มีปัญหาในเรื่องการทำงาน แล้วมันใช้งานในส่วนขอว pop และ smtp /ด้อย่างดี สบายกันไป

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

Update BIOS ASUS A45VM

ทำการอัพเดท bios notebook asus a45v model mainboard k45vm จาก 216 เป็น 230 เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ สำหรับโน้ตบุคของ สสจ ที่ได้รับมา

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Intel® Ivybridge Mobile & NVIDIA GEFORCE GT 630M * 2GB

หลังจากที่ได้พยายามติดตั้ง Linux Mint 14 ปัญหาที่เจอในการใช้งานมีอยู่เรื่องเดียว (ณ ตอนนี้) ก็คือเรื่องของการ์ดจอรุ่นใหม่ที่มีอยู่ใน Notebook ซึ่งเครื่องที่ได้ทดลองติดตั้งและใช้งานเป็นเครื่อง ASUS A45V Series Core i7 Ram 4Gb และการ์ดจอเจ้าปัญหา ซึ่งหลังจากที่เช็คแล้ว หากันปางตายเลยได้รู้ว่า ไอ้ cpu รุ่นใหม่ๆ มันรวม Graphic Chip ลงไปในตัวของมันเองเลย ซึ่งไอ้เครื่องนี้ ที่ชิพเซ็ต มันมี intel อยู่แล้ว แต่สงสัยกลัวขายไม่ออกละม้าง เลยยัด Nvidia ลงไปอีกตัวนึง การทำงานหลักๆ จะเรียกใช้งาน intel เป็นหลัก ถ้ามีการใช้งานโปรแกรมไหนต้องการใช้งานกราฟฟิกหนักๆ จะเรียกใช้งาน Nvidia มาทำงานแทน อย่างว่าแหละ microsoft คนใช้เยอะ ก็เลยทำ Driver มารองรับอยู่อย่างเดียว กว่าจะค้นหามาได้ เอาซะย่ำแย่ ซึ่งวิธีการครั้งที่แล้ว ไม่ได้เรื่องเบย กว่าจะสรรหา driver มารอบรับได้ แทบแย่ ซึ่งขั้นตอนก็ ทำตามนี้ไปเลย

sudo add-apt-repository ppa:ubuntu-x-swat/x-updates
sudo add-apt-repository ppa:bumblebee/stable

sudo apt-get update

sudo apt-get install bumblebee bumblebee-nvidia linux-headers-generic

จากนั้นให้รีบูตเครื่องครับ แล้วลองเทสดู สามารถใช้งานได้อย่างดี อะ แปลกดีว่ากันไป
หลักจากที่ได้ทดสอบแล้ว บน Linux Mint 14 สามารถใช้งานได้ และมี details บอกครบ แต่ Ubuntu 12.04 LTS ลงได้ แต่ในหน้าต่าง details ไม่บอกรายละเอียดอะไร

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หัดซ่อมพาวเวอร์ซัพพลายคอมพิวเตอร์


พาวเวอร์ซัพพลาย (power supply) อุปกรณ์ที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด (ไม่ใช่เฉพาะคอมพิวเตอร์นะครับ) หน้าที่โดยรวมๆ ของพาวเวอร์ซัพพลาย คือการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้มันทำงานได้ ถ้าจะให้เปรียบก็คงเหมือนกับระบบย่อยอาหารของคนเรานั่นแหละครับ พาวเวอร์ซัพพลายของคอมพิวเตอร์นั้นมีลักษณะการทำงาน คือทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าจาก 220 โวลต์ เป็น 5 โวลต์ และ 12 โวลต์ ตามแต่ความต้องการของอุปกรณ์นั้นๆ โดยชนิดของพาวเวอร์ซัพพลาย ในคอมพิวเตอร์จะแบ่งได้เป็น 2 ชนิดตามเคส คือแบบ AT และแบบ ATX ส่วนมากอาการเสียที่มักจะสันนิษฐานว่า เกิดจากพาวเวอร์ซัพพลาย ก็คือ การเปิดเครื่องแล้วไม่ติด พัดลมด้านหลังของพาวเวอร์ซัพพลายไม่หมุน ในกรณีนี้ถ้าเราไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้วัดกระแสไฟฟ้า ที่เรียกว่ามัลติมิเตอร์ เราจะไม่สามารถหาพบได้เลยว่าพาวเวอร์ซัพพลายเสียที่จุดใด รู้จักมัลติมิเตอร์ มัลติมิเตอร์มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือแบบที่เป็นเข็ม และแบบตัวเลข (Digital) แบบที่เป็นเข็มนั้นมีราคาค่อนข้างถูก แต่ว่าความเที่ยงตรงจะไม่ค่อยมี ส่วนแบบดิจิตอลนั้นความเที่ยงตรงมีมากกว่า แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย สำหรับมือใหม่หัดซ่อมอย่างเราก็เล่นแบบเข็มก็พอครับ มัลติมิเตอร์แบบเข็ม ใช้วัดได้ทั้งไฟตรง ไฟสลับ สายไฟ และความต้านทาน ราคา ถูกแต่ไม่ค่อยแม่นยำนัก เอาละ เรามาดูวิธีการใช้มัลติมิเตอร์แบบง่ายๆ กันเลย ก่อนอื่นให้คุณนำสายสีแดงเสียบในช่องที่เป็นสีแดง และนำสายสีดำเสียบในช่องที่เป็นสีดำ (อย่าสลับกันนะครับ) หน่วยวัดของมัลติมิเตอร์นั้น จะมีหน่วยเป็นโอห์ม หมายถึงค่าของความต้านทานของตัวนำนั่นเอง ตัวนำที่ดีที่สุดจะต้องไม่มีความต้านทานอยู่เลย ส่วนถัดมาของมัลติมิเตอร์ คือส่วนที่ใช้วัดไฟฟ้ากระแสตรง หรือ DC โวลต์ สายไฟในเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นจะถูกจ่ายออกมาเป็น 2 แรงดันคือ สายสีแดงจ่ายไฟ 5 โวลต์ และสายสีเหลือง จ่ายไฟ 12 โวลต์ เวลาที่คุณต้องการวัดว่า มีกระแสไฟออกมาจากพาวเวอร์ซัพพลายหรือไม่ ให้คุณปรับตัวบิดไปที่ตัวเลขที่ใกล้เคียงสูงกว่า สายเส้นที่คุณจะวัด เช่น คุณต้องการวัดสายแดงที่จ่ายไฟ 5 โวลต์ ให้คุณปรับไปที่เลข 10 เพื่อป้องกันมัลติมิเตอร์พัง เพราะกระแสเกิน อีกส่วนของมัลติมิเตอร์ ก็คือส่วนที่ใช้วัดไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) โดยปกติแล้วไฟบ้านเราจะใช้แรงดันไฟที่ 220 โวลต์ ใช้ในเวลาที่คุณต้องการจะวัดสายไฟที่ต่อออกจากไฟบ้านเข้าพาวเวอร์ซัพพลายว่ามีไฟเข้าหรือไม่ หลักการทำงานของพาวเวอร์ซัพพลาย พาวเวอร์ซัพพลาย ทั้งแบบ AT และ ATX นั้นมีลักษณะการทำงานที่เหมือนกัน คือรับแรงดันไฟจาก 220-240 โวลต์ โดยผ่านการควบคุมด้วยสวิตช์ สำหรับ AT และเมนบอร์ด แล้วส่งแรงดันไฟส่วนหนึ่งกลับไปที่ช่อง AC output เพื่อเลี้ยงตัวมอนิเตอร์ และจะส่งแรงดันไฟ 220 โวลต์ อีกส่วนหนึ่งเข้าสู่หน่วยการทำงานที่ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟสลับ 220 โวลต์ ให้เป็นไฟกระแสตรง 300 โวลต์ โดยไม่ผ่านหม้อแปลงไฟ ระบบนี้เรียกว่า (Switching power supply ) และผ่านหม้อแปลงที่ทำหน้าที่แปลงไฟตรงสูงให้เป็นไฟตรงต่ำ โดยจะฝ่านชุดอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่กำหนดแรงดันไฟฟ้าอีกชุดหนึ่งแบ่งให้เป็น 5 และ 12 ก่อนที่จะส่งไปยังสายไฟและตัวจ่ายต่างๆ โดยความสามารถพิเศษของ Switching power supply ก็คือ มีชุด Switching ที่จะทำการตัดไฟเลี้ยงออกทันทีเมื่อมีอุปกรณ์ที่โหลดไฟตัวใดตัวหนึ่งชำรุดเสียหาย หรือช็อตนั่นเอง รายละเอียดต่างๆ ของมัลติมิเตอร์ ส่วนประกอบต่างๆ ของพาวเวอร์ซัพพลาย และหน้าที่การทำงาน เอาละครับ เรารู้หลักการทำงานคร่าวๆ ของ Power supply แล้ว เรามาดูถึงอาการเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าจะวิเคราะห์อาการเสียอย่างง่ายๆ ก็มี เช่น เปิดแล้ว พัดลมไม่หมุนแต่เครื่องติด หากอาการแบบนี้ให้คุณทราบไว้เลยว่า พัดลมระบายความร้อนในพาวเวอร์ซัพพลายของคุณนั้นมันเกิดอาการเสียซะแล้ว อาจเป็นเพราะเกิดการฝืดเนื่องจากมีฝุ่น หรือหยากไย่เข้าไปค้างอยู่ หากปล่อยไว้นานๆ ก็อาจทำให้ พาวเวอร์ซัพพลายของคุณพังได้ วิธีแก้ก็คือให้คุณ ตัดเอาพัดลมพร้อมสายไฟออกแล้วเดินไปที่ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (แถวบ้านหม้อก็ได้) แล้วยื่นพัดลมให้คนขายดูเขาก็จะหยิบตัวใหม่ที่เหมือนกันเปี๊ยบมาให้คุณ คุณก็เอากลับไปต่อกับตัวพาวเวอร์ได้เหมือนเดิม แต่บอกไว้ก่อนนะครับว่า ราคาพัดลมกับพาวเวอร์ซัพพลายตัวใหม่นั้นมีราคาใกล้เคียงกันมากทีเดียว แต่ลองหัดซ่อมดูก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายนะครับ เปิดแล้วเครื่องไม่ติดพัดลมไม่หมุน หากเกิดอาการอย่างนี้อย่าเพิ่งสรุปนะครับว่า พาวเวอร์ซัพพลายของคุณเสีย เพราะอย่างที่บอกไว้ในหัวข้อข้างต้นก็คือ Power supply แบบ Switching นั้น สามารถที่จะตัดกระแสไฟได้ถ้าหากมีอุปกรณ์ที่โหลดไฟจากตัวมันไปชำรุด ดังนั้นวิธีเช็กก็คือให้คุณถอดอุปกรณ์ที่โหลดไฟจากพาวเวอร์ซัพพลายทั้งหมดออกมาก่อนแล้วเปิดดู หากพัดลมติด และใช้มัลติมิเตอร์วัดดู ถ้าเข็มแสดงว่ามีไฟเลี้ยงเข้าแสดงว่าอุปกรณ์ชิ้นใดชิ้นหนึ่งของคุณนั้นเกิดอาการชำรุดหรือช็อต วิธีทดสอบก็คือให้เสียบไฟโหลดนั้นทีละตัว แล้วเปิดดูหากอุปกรณ์ชิ้นไหนชำรุดพาวเวอร์ซัพพลายก็จะไม่หมุน (ตัวอย่างที่พบกันบ่อยๆ ก็คือคุณประกอบเมนบอร์ดเข้ากับตัวเคส โดยที่ไม่ได้ใช้แผ่นโฟมหรือขาพลาสติกรอง ทำให้ลายวงจรของเมนบอร์ด เกิดการสัมผัสกับตัวเคสที่เป็นตัวนำไฟฟ้าทำให้เกิดการลัดวงจรขึ้น ดังนั้นถ้าเกิดกรณีอย่างนี้ให้คุณรีบปิดตัวพาวเวอร์ซัพพลายโดยเร็ว และใช้แผ่นโฟมหรือแหวนรองน็อต ใส่ก่อนทุกครั้งที่ประกอบเครื่องลงเคส ไม่งั้นคุณอาจต้องน้ำตาร่วงเพราะเสียเงินซื้อเมนบอร์ดใหม่) วิธีวัดพาวเวอร์ซัพพลาย ถ้ามีเข็มขึ้น แสดงว่าพาวเวอร์ซัพพลายของคุณปกติ สาเหตุหนึ่งน่าจะเกิดจากการที่ฟิวส์ที่อยู่ภาพในตัวพาวเวอร์ซัพพลายเองขาด วิธีดูว่าฟิวส์ขาดหรือไม่ก็ให้ดูด้วยตาเปล่า หรือถ้ามีเขม่าจบในฟิวส์มากๆ ก็ให้ถอดฟิวส์ออกมาวัดโดยวัดจากค่าความต้านทานในฟิวส์ ตรงนี้คุณต้องถอดออกมาจากวงจรนะครับ ถึงจะวัดได้ ถ้าไม่มีความต้านทานขั้นก็แสดงว่าฟิวส์ขาด แต่ถ้าฟิวส์ไม่ขาด แล้วยังไม่มีไฟเข้าที่พาวเวอร์ซัพพลายอีก สาเหตุน่าจะมาจาก สายไฟที่คุณใช้ต่อไฟกระแสสลับเข้าสู่ไฟบ้านมีอาการชำรุด ขาดใน หรือแผงวงจรร หรือ อุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งของพาวเวอร์ซัพพลายเกิดความเสียหาย สำหรับในกรณีแรกให้คุณลองหาสายไฟมาเปลี่ยนดู แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่สอง ก็เปลี่ยนพาวเวอร์ซัพพลายใหม่เถอะครับ ไม่ต้องเสียเวลาซ่อมเพราะมันไม่คุ้ม อ้อ ก่อนการลงมือซ่อมพาวเวอร์ซัพพลายทุกครั้งอย่าลืมว่าต้องใส่รองเท้าหนาๆ ด้วยนะครับ เพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของตัวคุณเอง