หน้าเว็บ

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิทยุสื่อสาร แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิทยุสื่อสาร แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ซื้อวิทยุมาใหม่ SPENDER TC-I74

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ซื้อวิทยุมาใหม่ เป็นเครื่อง handy เพื่อการพกพง่าย และใช้งานสะดวก เพราะใช้งานผ่าน repeater อยู่แล้ว แต่ผลปรากฎว่า ไอ้เครื่องรุ่นใหม่ๆ นี่ ดันใช้งานกับรีพีทฯ ไม่ได้ เวรกรรม รับได้ ส่งไม่ถึง ความถี่มันชิพซะขนาดนั้นเลยหรือยังไงกัน แล้วรีพีทอื่นๆ เค้าไม่เป็นกันวะครับ งง เป็นของจังหวัดสุโขทัย เนี่ยแหละ เพี้ยนจริงๆ ถ้าปรับแต่งแล้ว ไปใช้งานรีพีทที่อื่น จะเป็นปัญหาอีกหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตัวเครื่องรุ่นเก่าๆ ใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหาอะไร เฮ้อ ก็ยังดี มีเครื่องเก่าเอาไว้ใช้งานอยู่บ้าง ไม่งั้นคงจะเป็นปัญหา เครื่องนี้ เอาไปจดทะเบียนกับ กสทช เรียบร้อย ปิดแบนด์ใช้งานเพียง 144.000 ถึง 146.500 เท่านั้น (ความถี่ใหม่) สามารถปรับโหมดใช้งาน wide หรือ nerrow ได้ ทำให้มีช่องใช้งานเพิ่มขึ้นด้วย step 12.5MHz ดีจัง แต่มันจะเบียดเบียนกันไม๊ อันนี้คงต้องลองกันต่อไป เพราะปัจจุบันยังใช้ wide กันอยู่เลย


ตัวเครื่องเมื่อแกะออกมาแล้ว มีเสาแถมมาให้สองต้น แบบในภาพ เป็นเสายาง อีกเสาเป็นเสาสไลด์ เสายางต้นนี้ รับสัญญาณดี ส่งดีมาก แต่ตัวเสาสไลด์คงจะเป็นเสาทั่วๆ ไป รับสัญญาณได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่ที่โล่งอาจจะดีก็ดี ยังไม่ได้ลองที่โล่งว่าจะยังไง แต่เสายางต้นนี้รับสัญญาณช่องตรงจาก 6KBR ได้สบายชัดแจ๋ว (โรงจอดรถ สสจ)

ตัวเครื่องประกอบมาแนบสนิทดี ที่เหน็บหลังเป็นแบบขันน๊อต ซึ่งดูแน่นหนาดี แบตเตอร์รี่ขนาด 1600 มิลลิแอมป์ ใช้ได้ทั้งวันแหละ เพียงพอต่อการใช้งานอยู่นะ เมนู อาจจะงงๆ อยู่บ้างนั่นล่ะ แต่ก็พอจะศึกษาได้จากคู่มือ ไม่ยุ่งยากเกินไปนัก สีหน้าจอ เปลี่ยนได้ 3 สี ส้ม ฟ้า ม่วง ก็ดีไปอีกแบบ การรับการส่งช่องตรง ถึงว่านิ่งดีมาก ก็นะ ดิจิตอลกันหมดแล้วนี่ เมนูบางเมนู ใช้งานยุ่งยากหน่อย กดเข้าไปเยอะ ละเอียดจัด ว่าอย่างนั้นเถอะ

ตัวนี้จับมาได้จาก lazada ในราคา 2790 บาท ซึ่งถูกกว่าซื้อข้างนอก ประมาณเกือบพัน (9xx บาท) นี่ยังเหลือเครื่องแดง อยากได้เหมือนกันนะ ติดว่าอยากได้ตัวใหม่ของมันมากกว่า เหมือนโมบายมาก ถ้าเงินเหลือๆ ค่อยว่ากัน ตอนนี้จน ใช้ handy ไปก่อนก็แล้วกัน ไม่ได้แตกต่างมากมายอะไร "มีใช้ ดีกว่าไม่มี"

สำหรับการเปิด และปิดแบนด์เจ้าเครื่องรุ่นนี้ ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร สามารถทำได้เลยจากหน้าเครื่อง แต่ก็นะ กว่าจะได้มา หากันตาแตก ไม่รู้แต่ละรุ่นจะทำไม่เหมือนกันมาทำไม แปลกดี พอรู้วิธีแล้วก็ไม่อยาก เมมช่องแบ่งเป็นหมวดหมู่เอาไว้ สะดวกก็เปิด ไม่สะดวกก้ปิดไป ใช้งานตามความถี่ที่กำหนดมาให้ ก็เหลือๆ เพียงพอใช้งานกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร คงต้องมาศึกษาเพิ่มเติมเรื่องความถี่ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา ว่ามันใช้งานอะไร ความถี่เท่าไหร่บ้าง เอาไว้มาโม้ใหม่ วันนี้ขอเท่านี้ละกัน ^^

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หัดซ่อมพาวเวอร์ซัพพลายคอมพิวเตอร์


พาวเวอร์ซัพพลาย (power supply) อุปกรณ์ที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด (ไม่ใช่เฉพาะคอมพิวเตอร์นะครับ) หน้าที่โดยรวมๆ ของพาวเวอร์ซัพพลาย คือการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้มันทำงานได้ ถ้าจะให้เปรียบก็คงเหมือนกับระบบย่อยอาหารของคนเรานั่นแหละครับ พาวเวอร์ซัพพลายของคอมพิวเตอร์นั้นมีลักษณะการทำงาน คือทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าจาก 220 โวลต์ เป็น 5 โวลต์ และ 12 โวลต์ ตามแต่ความต้องการของอุปกรณ์นั้นๆ โดยชนิดของพาวเวอร์ซัพพลาย ในคอมพิวเตอร์จะแบ่งได้เป็น 2 ชนิดตามเคส คือแบบ AT และแบบ ATX ส่วนมากอาการเสียที่มักจะสันนิษฐานว่า เกิดจากพาวเวอร์ซัพพลาย ก็คือ การเปิดเครื่องแล้วไม่ติด พัดลมด้านหลังของพาวเวอร์ซัพพลายไม่หมุน ในกรณีนี้ถ้าเราไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้วัดกระแสไฟฟ้า ที่เรียกว่ามัลติมิเตอร์ เราจะไม่สามารถหาพบได้เลยว่าพาวเวอร์ซัพพลายเสียที่จุดใด รู้จักมัลติมิเตอร์ มัลติมิเตอร์มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือแบบที่เป็นเข็ม และแบบตัวเลข (Digital) แบบที่เป็นเข็มนั้นมีราคาค่อนข้างถูก แต่ว่าความเที่ยงตรงจะไม่ค่อยมี ส่วนแบบดิจิตอลนั้นความเที่ยงตรงมีมากกว่า แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย สำหรับมือใหม่หัดซ่อมอย่างเราก็เล่นแบบเข็มก็พอครับ มัลติมิเตอร์แบบเข็ม ใช้วัดได้ทั้งไฟตรง ไฟสลับ สายไฟ และความต้านทาน ราคา ถูกแต่ไม่ค่อยแม่นยำนัก เอาละ เรามาดูวิธีการใช้มัลติมิเตอร์แบบง่ายๆ กันเลย ก่อนอื่นให้คุณนำสายสีแดงเสียบในช่องที่เป็นสีแดง และนำสายสีดำเสียบในช่องที่เป็นสีดำ (อย่าสลับกันนะครับ) หน่วยวัดของมัลติมิเตอร์นั้น จะมีหน่วยเป็นโอห์ม หมายถึงค่าของความต้านทานของตัวนำนั่นเอง ตัวนำที่ดีที่สุดจะต้องไม่มีความต้านทานอยู่เลย ส่วนถัดมาของมัลติมิเตอร์ คือส่วนที่ใช้วัดไฟฟ้ากระแสตรง หรือ DC โวลต์ สายไฟในเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นจะถูกจ่ายออกมาเป็น 2 แรงดันคือ สายสีแดงจ่ายไฟ 5 โวลต์ และสายสีเหลือง จ่ายไฟ 12 โวลต์ เวลาที่คุณต้องการวัดว่า มีกระแสไฟออกมาจากพาวเวอร์ซัพพลายหรือไม่ ให้คุณปรับตัวบิดไปที่ตัวเลขที่ใกล้เคียงสูงกว่า สายเส้นที่คุณจะวัด เช่น คุณต้องการวัดสายแดงที่จ่ายไฟ 5 โวลต์ ให้คุณปรับไปที่เลข 10 เพื่อป้องกันมัลติมิเตอร์พัง เพราะกระแสเกิน อีกส่วนของมัลติมิเตอร์ ก็คือส่วนที่ใช้วัดไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) โดยปกติแล้วไฟบ้านเราจะใช้แรงดันไฟที่ 220 โวลต์ ใช้ในเวลาที่คุณต้องการจะวัดสายไฟที่ต่อออกจากไฟบ้านเข้าพาวเวอร์ซัพพลายว่ามีไฟเข้าหรือไม่ หลักการทำงานของพาวเวอร์ซัพพลาย พาวเวอร์ซัพพลาย ทั้งแบบ AT และ ATX นั้นมีลักษณะการทำงานที่เหมือนกัน คือรับแรงดันไฟจาก 220-240 โวลต์ โดยผ่านการควบคุมด้วยสวิตช์ สำหรับ AT และเมนบอร์ด แล้วส่งแรงดันไฟส่วนหนึ่งกลับไปที่ช่อง AC output เพื่อเลี้ยงตัวมอนิเตอร์ และจะส่งแรงดันไฟ 220 โวลต์ อีกส่วนหนึ่งเข้าสู่หน่วยการทำงานที่ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟสลับ 220 โวลต์ ให้เป็นไฟกระแสตรง 300 โวลต์ โดยไม่ผ่านหม้อแปลงไฟ ระบบนี้เรียกว่า (Switching power supply ) และผ่านหม้อแปลงที่ทำหน้าที่แปลงไฟตรงสูงให้เป็นไฟตรงต่ำ โดยจะฝ่านชุดอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่กำหนดแรงดันไฟฟ้าอีกชุดหนึ่งแบ่งให้เป็น 5 และ 12 ก่อนที่จะส่งไปยังสายไฟและตัวจ่ายต่างๆ โดยความสามารถพิเศษของ Switching power supply ก็คือ มีชุด Switching ที่จะทำการตัดไฟเลี้ยงออกทันทีเมื่อมีอุปกรณ์ที่โหลดไฟตัวใดตัวหนึ่งชำรุดเสียหาย หรือช็อตนั่นเอง รายละเอียดต่างๆ ของมัลติมิเตอร์ ส่วนประกอบต่างๆ ของพาวเวอร์ซัพพลาย และหน้าที่การทำงาน เอาละครับ เรารู้หลักการทำงานคร่าวๆ ของ Power supply แล้ว เรามาดูถึงอาการเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าจะวิเคราะห์อาการเสียอย่างง่ายๆ ก็มี เช่น เปิดแล้ว พัดลมไม่หมุนแต่เครื่องติด หากอาการแบบนี้ให้คุณทราบไว้เลยว่า พัดลมระบายความร้อนในพาวเวอร์ซัพพลายของคุณนั้นมันเกิดอาการเสียซะแล้ว อาจเป็นเพราะเกิดการฝืดเนื่องจากมีฝุ่น หรือหยากไย่เข้าไปค้างอยู่ หากปล่อยไว้นานๆ ก็อาจทำให้ พาวเวอร์ซัพพลายของคุณพังได้ วิธีแก้ก็คือให้คุณ ตัดเอาพัดลมพร้อมสายไฟออกแล้วเดินไปที่ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (แถวบ้านหม้อก็ได้) แล้วยื่นพัดลมให้คนขายดูเขาก็จะหยิบตัวใหม่ที่เหมือนกันเปี๊ยบมาให้คุณ คุณก็เอากลับไปต่อกับตัวพาวเวอร์ได้เหมือนเดิม แต่บอกไว้ก่อนนะครับว่า ราคาพัดลมกับพาวเวอร์ซัพพลายตัวใหม่นั้นมีราคาใกล้เคียงกันมากทีเดียว แต่ลองหัดซ่อมดูก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายนะครับ เปิดแล้วเครื่องไม่ติดพัดลมไม่หมุน หากเกิดอาการอย่างนี้อย่าเพิ่งสรุปนะครับว่า พาวเวอร์ซัพพลายของคุณเสีย เพราะอย่างที่บอกไว้ในหัวข้อข้างต้นก็คือ Power supply แบบ Switching นั้น สามารถที่จะตัดกระแสไฟได้ถ้าหากมีอุปกรณ์ที่โหลดไฟจากตัวมันไปชำรุด ดังนั้นวิธีเช็กก็คือให้คุณถอดอุปกรณ์ที่โหลดไฟจากพาวเวอร์ซัพพลายทั้งหมดออกมาก่อนแล้วเปิดดู หากพัดลมติด และใช้มัลติมิเตอร์วัดดู ถ้าเข็มแสดงว่ามีไฟเลี้ยงเข้าแสดงว่าอุปกรณ์ชิ้นใดชิ้นหนึ่งของคุณนั้นเกิดอาการชำรุดหรือช็อต วิธีทดสอบก็คือให้เสียบไฟโหลดนั้นทีละตัว แล้วเปิดดูหากอุปกรณ์ชิ้นไหนชำรุดพาวเวอร์ซัพพลายก็จะไม่หมุน (ตัวอย่างที่พบกันบ่อยๆ ก็คือคุณประกอบเมนบอร์ดเข้ากับตัวเคส โดยที่ไม่ได้ใช้แผ่นโฟมหรือขาพลาสติกรอง ทำให้ลายวงจรของเมนบอร์ด เกิดการสัมผัสกับตัวเคสที่เป็นตัวนำไฟฟ้าทำให้เกิดการลัดวงจรขึ้น ดังนั้นถ้าเกิดกรณีอย่างนี้ให้คุณรีบปิดตัวพาวเวอร์ซัพพลายโดยเร็ว และใช้แผ่นโฟมหรือแหวนรองน็อต ใส่ก่อนทุกครั้งที่ประกอบเครื่องลงเคส ไม่งั้นคุณอาจต้องน้ำตาร่วงเพราะเสียเงินซื้อเมนบอร์ดใหม่) วิธีวัดพาวเวอร์ซัพพลาย ถ้ามีเข็มขึ้น แสดงว่าพาวเวอร์ซัพพลายของคุณปกติ สาเหตุหนึ่งน่าจะเกิดจากการที่ฟิวส์ที่อยู่ภาพในตัวพาวเวอร์ซัพพลายเองขาด วิธีดูว่าฟิวส์ขาดหรือไม่ก็ให้ดูด้วยตาเปล่า หรือถ้ามีเขม่าจบในฟิวส์มากๆ ก็ให้ถอดฟิวส์ออกมาวัดโดยวัดจากค่าความต้านทานในฟิวส์ ตรงนี้คุณต้องถอดออกมาจากวงจรนะครับ ถึงจะวัดได้ ถ้าไม่มีความต้านทานขั้นก็แสดงว่าฟิวส์ขาด แต่ถ้าฟิวส์ไม่ขาด แล้วยังไม่มีไฟเข้าที่พาวเวอร์ซัพพลายอีก สาเหตุน่าจะมาจาก สายไฟที่คุณใช้ต่อไฟกระแสสลับเข้าสู่ไฟบ้านมีอาการชำรุด ขาดใน หรือแผงวงจรร หรือ อุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งของพาวเวอร์ซัพพลายเกิดความเสียหาย สำหรับในกรณีแรกให้คุณลองหาสายไฟมาเปลี่ยนดู แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่สอง ก็เปลี่ยนพาวเวอร์ซัพพลายใหม่เถอะครับ ไม่ต้องเสียเวลาซ่อมเพราะมันไม่คุ้ม อ้อ ก่อนการลงมือซ่อมพาวเวอร์ซัพพลายทุกครั้งอย่าลืมว่าต้องใส่รองเท้าหนาๆ ด้วยนะครับ เพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของตัวคุณเอง