หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

แม่ไปกรุงเทพฯ ช่วยป้าคำขนของหลาน และไหว้พระบรมศพด้วย

วันนี้ แม่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ กับป้าคำ เพื่อไปเป็นเพื่อน ในการย้ายเอาหลานออกจากหอพัก ไปไว้ที่ท่าเรือคลองเตย เพราะว่าจะเอาฝากไว้ที่แฟลตท่าเรือ ห้องพี่กบ ไปฝึกงานอยู่นั่น อย่างน้อยๆ ก็น่าจะราวๆ 3 เดือนเหมือนนักศึกษาทั่วไป ถ้าทำงานดี ที่มีมีรับเข้าทำงานเลยด้วยซ้ำไป ...

ว่ากันต่อ เดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ 20.00 น. ป้าคำเช่ารถตู้ไป ก็นั่งกันเต็มรถตู้นั่นแหละ แล้วไปถึงก็ราวๆ ตีสอง ... วิ่งไวแหะ เดินวนเล่นไปเรื่อยๆ จนเกือบเจ็ดโมงเช้า ก็มีที่นั่งบ้างแล้ว ได้เก้าอี้นั่งเรียงไปเป็นกลุ่มๆ ก ข ค ง จ ฉ ว่ากันไป แต่ละกลุ่ม จะมีผู้ดูแล และคอยสอนว่าควรจะทำตัวยังไง ก็ว่ากันไป พอเริ่มสายๆ ของกินของแจก สารพัดประเภทที่เหล่าคนใจดี ที่ว่างเว้นจากงานประจำ ก็เข้ามาในงานเพื่อที่จะแจกของ ทั้งของกิน ของฝาก ของชำร่วยต่างๆ ฟรี ไม่มีเงื่อนไขอะไร

15.00 น. โดยประมาณ แม่ได้เข้ากราบ ไหว้พระบรมศพฯ หลังจากที่รอมาจนเกิน 12 ชม. เลยทีเดียว คนจะเยอะไปไหน หรือเค้าจองคิวกันถึงได้เข้ากันไว อันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เหมือนโรงแรม แบบเดิน walk in เข้าไป ก็อาจจะมีช้าบ้างในบางกรณี จนผ่านไป ก็โทรหาแม่เพราะรู้สึกว่า น่าจะไปสมุทรปราการ หาป้าอี๊ดไม่ทันแน่ เพราะว่าป้าอี๊ดโทรหาแล้ว ไม่รับสายเลย

19.30 น. โทรหาแม่ ตอนนี้อยู่กับน้าทิม น้าชาย รับหลายป้าคำเอาไว้ด้วยแล้ว แต่ว่าห้องยังเข้าไปไม่ได้เพราะว่ากุญแจรถนั้น อยู่ที่รถ อยู่ในรถน้าชาย ที่เพื่อนเค้ายืมไป กุญแจห้องพักของพี่กบติดอยู่ในรถ คืนนี้ก็เลยต้องไปนอนกับน้าทิ่มก่อน ไม่เป็นปัญหาอะไรมากมายนักหรอก

20.20 น. โทรไปอีกรอบ ได้ข่าวว่า กำลังออกจาก กทม. สงสัยคงถึงราวๆ ตีสอง ตีสาม นี่แหละ ถนนพิษณุโลกทำอยู่ด้วย ไม่รู้อะไร ทำไม่เสร็จซํกที ปะผุกันอยู่ได้ แถมไม่มีป้ายบอกด้วยนะ มีแต่ป้ายให้ระวังเท่านั้นเอง

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

น้ำมัน 1 ถัง 730 กิโลเมตร

หลังจากไปเอารถออกมาใช้งาน ซึ่งยังวิ่งช้าๆ ไม่ได้เร่งรีบอะไรมากมายนัก เนื่องจากยังปรับสภาพการขับรถไม่ได้ ปรับจากรถเก๋งคันเล็กๆ ใช้ความเร็วสูงๆ รถก็ยังนิ่ง แต่พอเป็นรถใหญ่ มันโยน แกว่ง เวลาเลี้ยว เวลาตกหลุม มันสะท้านสะเทือนเลย ก็เลยวิ่งช้า เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประหยัดน้ำมันด้วยหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ ความเร็วเฉลี่ยๆ อยู่ที่ 90-100 กม/ชม วิ่งใช้งานภายในจังหวัด จากบ้าน มาทำงาน ตั้งแต่วันที่ออกรถมา จากนั้นวันที่ 16 พย. ก็ไปเติมน้ำมันเต็มถัง แล้วไปถ่ายรูปที่สวรรคโลก 17 พย. งาน 2 be number 1 จากป้ายมันกำหนดเอาไว้ว่าเฉลี่ยวิ่งได้ 830 โห... ไม่เชื่อเว้ยครับ เกินไป
เต็มถังครั้กแรก มีน้ำมันเหลือในถัง

เต็มถังครั้งแรก เฉลี่ยวิ่งได้ 830 กม/ชม. วิ่งจริงไม่ถึงได้ 700
ตั้งแต่วันที่ 16 พย. น้ำมันเต็มถัง ก็วิ่งมาจนถึงวันที่ 30 พย. น้ำมันหมดถังพอดี ระยะทางการวิ่งจริงๆ ก็วิ่งได้ราวๆ 730 กม. แต่ ระยะทางเท่านี้คือ หมดเลยนะ เกลี้ยงถังแน่นอน วิ่งจริงๆ ควรจะหาปั๊มได้ตั้งแต่ 600 กม.แรกแล้วเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากถ้าน้ำมันหมดถัง ระบบเกียร์มันจะล๊อค ทำให้วิ่งได้อืดๆ ต้องขับปลดล๊อค .. อ่านเจออยู่ แต่ยังไม่ถึงขนาดเกลี้ยงถังเลยยังไม่ได้จำว่าต้องทำยังไง จำได้ว่าต้องวิ่งให้ถึง 40 กม/ชม แล้วระบบจะปลดล๊อค ... แสดงว่ามันอืดมากเลย
ถ้าเหลือวิ่งได้ 70 กม จะมีเตือนขึ้นมาว่าต้องเติมน้ำมัน

ถังที่ 2 หมดไปเยอะ เพราะวิ่งจนเกือบเกลี้ยงจริงๆ (61/70 ลิตร)
น้ำมันถังที่สองนี่ วิ่งไปแบบเกลี้ยงถังจริงๆ เลยทีเดียว (น้ำมันขึ้นราคาด้วยถ้าไม่ถ่ายไว้ไม่รู้เลย) เพราะงั้น เลยเติมหนักหนาสาหัสกันไปเลย 61.314 ลิตร เรียกว่า เกือบหมดถังแล้วนะนี่ วิ่งเข้าไปได้เรา ขนาดถังรุ่นนี้เป็นน้ำมันดีเซล ความจุถัง 70 ลิตร ถ้าเอาตามคู่มือบอกนะ มันบอกไว้แบบนั้นจริงๆ รายละเอียดการใช้งานลึกๆ ทั้งหมด ยังอ่านไม่หมด คงต้องอ่านกันต่อไป รวมถึงจุดไฟต่างๆ ด้วย ว่าสามารถเชื่อมต่อตรงไหนได้บ้างผ่าน fuse tab ซึ่งเดี๋ยวนี้มีขายทั่วไป ป้องกันการตัดสาย การช๊อตได้ด้วย เพราะมีฟิวส์ในการดูแลอยู่ เอาไว้ถังสองนี้หมดเท่าไหร่ จะรีวิวไปเรื่อยๆ เพราะยังไม่มีระยะทางที่วิ่งไกลๆ ถ้าวิ่งไกลๆ เท้านิ่งๆ ก็น่าจะประหยัดอยู่นะ อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่า 650 กม. แน่นอนอยู่แล้ว ค่อยยังชั่ว รอดูกันต่อไป