กลับมา update blogspot กันซักนิดนึง

 สืบเนื่องจาก ไม่สามารถเข้าใช้งาน blogspot ได้จากเน็ตของ cat เพราะทางกระทรวง ict บล็อคเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ไม่สามารถมาเขียน มาอ่าน มาอัพเดทอะไรใดๆ ได้เลย ก็แปลกดีเหมือนกันที่โดนบล็อค แต่เดี๋ยวก่อน!! ที่บ้านเป็นเน็ตของ true ซึ่งสามารถเข้าใช้งานได้แบบปกติ ก็เลยทำให้สามารถมาเขียนบทความนี้ได้ไง ก็ดูจากวันเอาแล้วกันเนอะ ว่าวันไหนที่มาโพส คราวนี้เวลาโพส คงต้องมานั่งรำรึกอะไรที่บ้านเราก็แล้วกัน ส่วนเนื้อหาหลัก และเอกสารส่วนใหญ่ ก็เอาไว้ใน onenote แทน ซึ่งก็ไม่ได้ออนอะไรอะไร เอาไว้เป็นเอกสารเก็บประจำไว้ก็แล้วกัน เนื้อหาเผยแพร่ส่วนใหญ่ที่ลงที่นี่ ก็จะเป็นเรื่องของการที่จะต้องจดจำ หรือเอาไว้แนะนำใครๆ เค้า เท่านั้นเอง

ติดตั้งแอร์ใหม่ห้องนอนต้น

วันนี้ฤกษ์ดี ช่างว่าง กว่าจะว่างได้ คิวยาวนานมากๆ เลยทีเดียว กว่าจะได้คิวมา ก็เริ่มต้นการติดตั้งโดยทำการรื้อของเก่าของ ซึ่งมี btu เพียงแต่ 9000 btu เท่านั้นเอง สั่งซื้อมาใหม่เป็นยี่ห้อ mavell ซึ่งได้ถึง 19,180 btu เย็นเจี๊ยบๆ กันเลยทีเดียวเชียว หนาวมากๆ หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ก็ไปล้างแอร์ห้องแม่ ซึ่งไม่ได้ทำมา นานมากๆ แล้ว แต่ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรมากนัก ในการล้าง รวมงานทั้งหมดเสร็จได้ภายในบ่ายโมง ทำงานกันครึ่งวัน เท่านั้นเอง เริ่มติดตั้งตั้งแต่เช้า เพื่อไม่ให้อากาศร้อนจนเกินไปนัก

ทำการติดตั้งคอมเพรซเซอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ดำเนินการติดตั้งภายในห้องต่อไป

นายช่างปีนอกไปได้แบบไม่กลัวตกเลย

ล้างแอร์ตัวล่าง เลอะมาก เลอะเทอะจริงๆ

งงงง

เสร็จหมดแล้ววววววววววววววววววววว

Skill Course Honda Big Wing Phitsanulok

      เริ่มต้นการเดินทาง กับทาง Big Wing พิษณุโลก ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้มีการจัดอบรม Skill Course หลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีเวลาที่ได้ว่างตรงกับทางผู้จัดเลย มารอบนี้ มีเรื่องของใบขับขี่บิ๊กไบท์เพิ่มขึ้นมาอีก ก็ได้เวลาว่างพอดี เอา ไปก็ไป จะได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้น ตอนนี้ก็ได้เลยพรรคพวกไปด้วย หลังจากที่ขี่คนเดียวมานานแล้ว ก็จะมีน้องเอ็กซ์ กับน้องนุ้ย ซึ่งทั้งสองคนซื้อรถตามที่หลังไม่นานเท่าไหร่นัก - -" ไม่ได้เป็นคนเริ่มนะ 555

      วันแรกกับการเดินทาง ศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563 - -" เกิดปัญหาตั้งแต่ตอนเช้า เพราะว่า ฝนตกหนักมากกกก ตกตั้งแต่กลางคืนแล้วล่ะ เช้าก็ยังไม่หยุดตก หนักบ้าง เบาบ้าง ก็ได้โทรแจ้งน้องๆ ที่รออยู่ที่ศรีสัชนาลัยว่า เฮ้ย ฝนมันตกอะ รอเบาๆ ก่อนนะ แล้วพี่จะลุยไป จนในที่สุด 9.00 น. นิดหน่อย มันก็เบา เอาวะ ลุยก็ได้ ลุยก็ลุย เปียกค่อยไปว่ากันข้างหน้าอีกที มีชุดไปเปลี่ยนเยอะหน่อย

หลังจากขับออกจากบ้าน จุดหมายแรกที่ต้องไปคือ ปั๊มน้ำมัน ... ใช่ครับ น้ำมันในรถ ไม่มีติดถังเลย เหลือเพียงแค่ 1 ขีดเท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้ ก็ได้ทดลองเติม E20 มาประมาณ 3 ถังได้ แต่ก็ได้แค่เพียงวิ่งภายในเมือง ไปทำงาน ซื้อกับข้าวเท่านั้นเอง ถังนึงก็ได้ราวๆ 300 กม.นิดหน่อย ยังไม่ได้ทดลองเอาจนหมดจริงๆ แวะปั๊มสิครับ ปั๊ม ปตท.ใหม่ ก่อนสี่แยกโตโยต้า ตอนนี้ในแอพเติมน้ำมันก็ยังไม่มีให้ปักหมุดเลยล่ะครับ จัดไปเลยครับ เต็มๆ ถัง 280 บาท 13.64 ลิตร ๆ ละ 20.52 บาท น้ำมันลดราคาพอดีเลยล่ะ ^_+ ทริปนี้ เน้น E20 ล้วนๆ เพื่อทดสอบครับ

ถังแรกผ่านไป วิ่งลุยฝนพร่ำๆ ไปต่อ จนกางเกงเริ่มเปียกแล้วล่ะ แต่น้ำยังไม่ไหลเข้าร้องเท้า วิ่งไปได้ซักพัก ฟ้าเริ่มโปร่ง แดดเริ่มมี พอถึง อ.ศรีสำโรง ผ่านพระองค์ใหญ่ปั๊บ คราวนี้ แดดจัดมากกก มาเต็มๆ ถนนแห้งๆ ไม่มีร่องรอยของเม็ดฝนเลยแม้แต่นิดเดียว - -" โห ตกแต่ในเมืองจริงๆ ลุยยาวๆ สิครับ ทางตรงๆ จุดหมายต่อไป โรงพยาบาลส่งเสริมตำบลท่าชัย ใช้เวลาไม่นานก็ถึงครับ เกือบสิบโมงเลย 555

หลังจากที่ได้เจอกันแล้ว ก็มีการบ่นกันเล็กน้อยถึงปานกลาง จากนั้นก็ออกรถครับ ฝนฟ้าไม่มีเลย มีแต่ครึ้มเล็กน้อย แดดนิดหน่อย ไม่ถึงกับร้อนอะไรมากมายนัก อากาศเย็นลงด้วยซ้ำไปนะครับ วิ่งกันยาวๆ ภาพถ่ายได้ยากมากกกก เพราะว่าขับกันไวมากๆ จับมือถือขึ้นมาถ่ายไม่ได้เลย เพราะว่าเร็วจริงๆ ได้มาภาพเดียวนี่เอง เพราะรถติด 

หลังจากถ่ายเสร็จ เก็บมือถือปั๊บ หวดเลยครับทีนี้ วิ่งยาวๆ แบบถ่ายไม่ได้อีกเลยจนถึงร้านกาแฟถิ่นไทย ซึ่งเป็นจุดหมายที่ทาง big wing ได้นัดหมายเอาไว้ว่าจะมาเจอกันตรงจุดนี้ เพื่อกินข้าวกลางวันที่ทางศูนย์ได้โทรมาถามแล้วจะกินอะไรดี เมนู ข้าวผัดกระเพราหมู, ข้าวผัดกุ้ง, ข้าวผัดหมู เครื่องดื่มก็จะเป็น กาแฟ ชาเขียว อะไรก็ว่ากันไปครับ ตามรายการ 

สำหรับบรรยากาศร้าน ถือว่าน่านั่งนะครับ อาหารก็อร่อยนะ กาแฟรสชาดดีเลย มีเวลาต้องค่อยๆ นั่งจิบไป ขนมสารพัดมีให้เลือก ไปลองกันได้ครับ หลังจากกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทาง bw (ขอย่อจาก big wing นะครับ) ก็ได้จัดขบวนเพื่อออกเดินทางจากร้านถิ่นไทย มุ่งหน้าสู่โรงแรมที่พักครับ รร.ดอนจั่น แต่ก่อนจะเคลื่อนขบวนกันไป ก็ได้นัดแนะกันว่าจะแวะเติมน้ำมัน และพักเมื่อยกันที่ ปั๊ม ปตท.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ก็เลยได้เติมกับเค้าไป เพราะวิ่งมาแล้ว  ไมล์ 21355 กม. วิ่งมาได้ 222.1 กม. เติมไปอีก 190 บาทครับ

หลังจากเติมน้ำมันเสร็จเรียบร้อย ก็เคลื่อนขบวนของเราต่อไป มุ่งหน้าสู่ จ.เชียงใหม่ แต่!!! เจอฝนช่วงลำพูนครับ เละเทะ ไม่มีชิ้นดี 555 เปียกหม๊ดเลย พอถึงเชียงใหม่ กลับไม่มีฝนซะงั้น วิ่งจนแห้งอีกรอบนึงจนถึงโรงแรม ก็เข้าพักผ่อนกันครับ ตามอัธยาศัยเลย

หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ ก็มารับเสื้อที่ชั้นล่าง หน้าล๊อบบี้โรงแรม เสื้อฟรีไซต์!!! ใส่ไม่ได้ก็ต้องใส่ 555 เต็มพุงจริงๆ ครับ ขอบคุณทาง bw ด้วยครับผม ขึ้นห้องพักผ่อนครับ รอตื่นเช้า เพื่อไปอบรมขับขี่ต่อครับ!

เปิดเรียนเทอมเทคนิค 1 กรกฎาคม 2563

พูดถึงการเรียนแล้วก็น่าเบื่อนะ ครูก็อย่างนึง ผู้ปกครองก็อย่างนึง ก็รอกันมาได้นานแล้ว รออีกหน่อย ไม่ได้กันหรือยังไง กฎมี กติกามี แค่นี้ยังทำตามกันไม่ได้ Thailand Only เหมือนเดิมทุกที ไม่ใช่ไม่อยากให้ลูกไปเรียน อยากให้ไปมากเลย ค่าไฟแพงฉิบหายครับ แต่ถ้าไปเรียนแล้ว เกิดปัญหา จะรับผิดชอบยังไง ... ปิดโรงเรียนเพื่อหยุดยั้งก่อน ปัญหาอยู่ที่ใคร ..ผู้ปกครองไงครับ ต้องรักษา ต้องดูแล กว่าจะหายอีก เออ กลัวเด็กไม่มีความรู้เหมือนกันครับ แต่กลัวมันตายมากกว่า ประเทศเรารอดมาได้เพราะล๊อคดาวน์แบบนี้แหละ อยากอิสระเสรี โน่น เมกาโน่น เป็นไงล่ะ เค้าให้กักตัวก็ไม่กัก แล้วก็ติดโรคตายเป็นเบือเลย อิสระทั้งความคิดและร่างกาย ตัวกูของกูทั้งนั้น เฮ้อ บ่นหาเหี้ยไรเนี่ย กุเนี่ย 5555 ฉิบหาย เดี๋ยวกูก็โดนบรรดาครูๆ ถล่มอีกล่ะมั้ง ใจเย็นๆ กันหน่อย ห่วงเด็กๆ กันหน่อยครับ

ซอสอเนกประสงค์ ผัด ทอด

มาอีกๆ ไปได้มาแล้ว เอามาอีก ซอสสำหรับทำไว้สำหรับทำอาหารผัดๆ ทั้งหลาย ทำเก็บใส่ตู้เย็นเอาไว้ให้ไอ้ลูกชายมันทำอะไรกินเอง เอ ก็ง่ายดี ไม่ยุ่งยากด้วย เดี๋ยวปรับลดสูตรเอา อันนี้ลอกเค้ามาเอาไว้ลองทำ ไม่น่ายากเย็นอะไรเท่าไหร่

กระเทียมไทยปั่น 1 ถ้วยตวง
กระเทียมจีนปั่นปลอกเปลือก 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมันหอยอย่างดี 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ 200 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 200 กรัม
ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ถ้วยตวง
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ

- เอากระเทียมทั้งสองชนิด ไปเจียวกับน้ำมันหมูจนเหลือง ตักขึ้นพักไว้
- ที่เหลือ เอามาใส่หม้อรวมกัน แล้วคนๆ ให้ละลายเริ่มเข้ากัน แล้วเอาไปตั้งไฟปานกลาง คนเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลายรวมกันหมด ก็เอากระเทียมที่พักไว้ ใส่ลงไป คนให้ทั่ว ตั้งให้เดือด ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น แล้วเอาไปเก็บ ถ้าตามนี้ น่าจะประมาณ 50 จานได้ ใช้ 1-2 ช้อน/จาน

เมนูที่ทำได้
ข้าวผัดไข่
ราดหน้า
ผัดซีอิ้ว
หมู/ไก่ ทอดกระเทียม
อาหารประเภทผัด
ข้าวผัดทั้งหลาย

สรุป เอาไปลองเอาเองแล้วกัน อันนี้เน้นข้าวผัด ไม่รวมพวกผัดกระเพรานะ อันนั้นไปปั่นพริกกระเทียมเอา ง่ายๆ อันนี้ทำเป็นซอสเอาไว้ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการทำเฉยๆ ทำติดบ้านไว้ ให้ลูกมันหาอะไรทำกินเอง บอกวิธี ขั้นตอน มันจะได้ทำเองได้ โตแล้ว จะกินอะไรทำเอง พ่อมันสอนไว้งี้ 5555

ซอสแป้งหมักราดหน้า+หมูนุ่ม

หลังจากที่ไม่ได้เขียนมานาน มีดราม่าเรื่องนาฬิกาหายด้วย อืม ก็ว่ากันไป ใครเก็บไปได้ ไม่คืนก็ขอให้บ้านบึ้มกันไป 555 มีแช่งอีก อันนี้ยังไม่ได้เขียนถึงเรือนใหม่ที่ซื้อมานะ ดรอปราคาไปฮวบๆ เลย เอาๆ ค่อยว่ากัน วันนี้มาด้วยเรื่อง "ซอสหมักสำหรับทำราดหน้า" ที่ตามร้านดังๆ ใหญ่ๆ เค้าทำกัน ได้สูตรมา ก็ต้องไปลองว่า ทำแล้วจะดีไม๊ อร่อยแค่ไหน หรือจะต้องปรับสูตรให้เข้ากับที่เราชอบ ไม่หวานจัด ไม่เค็มจัด ไม่จืดจนต้องเติมสารพัดเครื่อง อันนี้ เดี๋ยวมาลองๆ กันก่อนแล้วค่อยมาปรับกันอีกที ว่ามันต้องแก้อะไรอีกบ้าง ใส่เรียงตามที่จดเอาไว้เลย

ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ 200 กรัม

ใส่ทุกอย่างรวมกัน แล้วตั้งไฟเบา คนๆ ไปจนน้ำตาลปีบ น้ำตาลทรายละลายหมด ปิดไฟพักไว้ให้เย็น

แป้งมัน 4 ถ้วยตวง

นำน้ำซอสที่เย็นแล้ว มาผสมแป้งมัน 4 ถ้วยตวง คนๆ คลุกๆ พอเพิ่มเหนียว ก็มือสิครับ คลุกเลยรออะไร พอเริ่มเข้ากันแล้ว

ซีอิ้วขาว 1/2 ถ้วยตวง

ใส่ซีอิ้วขาวลงไปผสม ... มือนั่นแหละ อร่อยแล้ว มือเรา เรากินเอง ล้างมือก่อนแล้วกัน คลุกให้เข้ากัน จนแป้งไม่เป็นก้อน มันก็จะเหมือนโคลนๆ หน่อย เออ สีมันเป็นแบบนั้นแหละ เอาให้ละเอียดจริงๆนะ อย่าให้เหลือเม็ดแป้ง เดี๋ยวจะบูดเปรี้ยวได้ มือล้วนๆ ช้อนมันไม่ละเอียด

เสร็จแล้วก็หากล่องใส่เก็บไว้ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ได้นาน ถ้าทำไม่เยอะ ก็ลดสัดส่วนลงได้ ปรับเอาตามชอบ เพราะจริงๆ น้ำตาลมันเยอะจริงๆ นะ แต่เวลาทำ มันไม่ได้หวานอะไรปานนั้นหรอก ต่อจานเนี่ย ก็ ปรับๆ เอาแล้วกัน ใครชอบหวาน ก็ตามสูตรนี้ ถ้าใครไม่อยากหวานมาก ก็ปรับลดลงไป เอาตาลชอบ รสมือใครรสมือมัน อันนี้ก็ลอกเค้ามาจะเอาไปลองนี่แหละ จบ เอาไว้ลองแล้วได้ผลยังไง จะมาเล่าอีกที 5555
เออๆ ลืม ไม่จบๆ หมักหมูนุ่ม ว่าไปๆ ขาดกันไม่ได้ กับหมูนุ่ม

สะโพกสไลด์ประมาณ 3 มิล 1 กิโลกรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
ซีอิ้วขาว 1/2 ถ้วยตวง
แป้งมัน 4 ช้อนโต๊ะ
โซดา 1 ขวด

รวมสิครับ รออะไร เททุกอย่างรวมกัน คลุกเคล้าให้เข้ากันให้หมดจนน้ำตาลละลาย หลังจากนั้นใช้

น้ำมันหมู 1 ถ้วยตวง

นวดทุกอย่างให้เข้ากัน ถ้ามันดูแห้ง ให้เติมน้ำมันหมูเพิ่มลงไปอีกหน่อย แต่อย่าเกิน 1 ถ้วยตวง มันมากไป นวดทุกอย่างไปจนน้ำมันเริ่มจะงวดๆ แห้งๆ ก็พัก ทิ้งไว้ซัก 5-10 นาที จากนั้นก็เอาใส่กล่องเก็บแช่ตู้เย็นเอาไว้ได้เลย  จบ ไม่ต้องมาถามนะว่า ราดหน้าทำยังไงอีก เออ เอาด้วยเลยไม๊ เอาเลยๆ จัดไป

ผัดเส้นก่อน หรือจะเอาหมี่เหลืองไปทอดก็ตามสะดวก แล้วทำน้ำราดหน้าก็

ใส่น้ำมัน
เจียวกระเทียม
ใส่เต้าเจี้ยว (ไม่ชอบไม่ต้องใส่)
เติมน้ำ
เอาหมูที่หมักไว้ใส่ลงไป
พอน้ำเดือด คนกะทะ ใส่ซอสแป้งหมักที่ทำลงไป
จัดจานใส่ผัก ใส่เส้น แล้วตักน้ำราด ราดลงไป จบ

อ่อ ลืมไป คนโขทัย ใส่ซอสพริกราดลงไปบนจานเลย แล้วลองชิมก่อน ได้รสเปรี้ยวเพิ่มขึ้นมานิดนึง กลมกล่อมด้วยนะเออ บอกเลย ต้องลองๆ

สร้างความกดดันให้ตัวเองด้วย gramin vivoactive 3 music

หลังจากที่คิดอยู่นาน ว่าจะตั้งใจทำให้มันจริงจัง ด้วยการกดดันตัวเอง และไม่ต้องไปสมัครวิ่งให้มันยุ่งยาก เสียเงินไปเปล่าๆ อย่างที่คิดเอาไว้กับน้องเอ้ ซึ่งมันก็น่าจะเห็นผลได้ดีกว่า เรียกว่าเป็นการออมเงินไปด้วยในตัวไปเลยก็แล้วกัน เอาไว้ถึงเวลาที่ร่างกายเราสามารถจะไปวิ่งกับคนอื่นๆ เค้าได้แล้วจริงๆ ก็ค่อยออกไปสมัครลองวิ่งเป็นครั้งๆ ไป จะดีกว่า ... สมัครผ่านออนไลน์ เพื่อให้ทางเค้ามีเงิน เราก็หยอดกระปุกเก็บไว้ แล้วทำผลงานได้อย่างที่เราต้องการ ดีกว่าไม๊? น้องมันก็ ok กับแนวทางแบบนี้ ... ปีๆ นึงซื้อทองได้เป็นบาทเลยด้วยซ้ำละมั้ง เดือนละ 500 เป็นอย่างน้อยเนี่ย มาลองดูกันว่า เราจะทำได้ไม๊...

แล้วก็ไปสร้างความกดดันให้กับตัวเองด้วยการซื้อ Garmin Vivoactive 3 Music กับหูฟัง Bluetooth Sony มาตัวนึง ใช้สำหรับเดินออกกำลัง แล้วก็ต้องหยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมกับการคุมอาหารประเภทแป้งลงด้วย ... ไม่ยากหรอก ถ้าจะทำ นั่นล่ะ ที่ทำให้เกิดการกดดันตัวเองไปซะเลย ทดลองเดินวันแรกไปแล้ว เกือบสามกิโล มันก็ ok นะ ตอบโจทย์ครบจริงๆ รอดูผลงาน 47 วัน ว่าจะเป็นยังไงบ้าง ทำชาเลนช์ตัวเองไปเลย จาก 114.5 แล้วจะไปได้ที่เท่าไหร่ ต้องลองดูกัน ต้องทำได้ เป็นเรื่องที่ต้องทำได้

ถ้าตั้งใจ ก็ทำได้อยู่แล้ว มันอยู่ที่ใจเราเอง แม่ได้กล่าวไว้

เริ่มต้นแล้ว หยุดไม่ได้ เสียดายเงินซื้อของมาด้วย 555 เอาเงินค่าดื่มคำนวนแล้วตกวันละ 300 บาท มาทดแทนด้วยการไม่ดื่ม 47 วัน! พิสูจน์ให้รู้กันไปเลย

เริ่มต้นลดน้ำหนัก กับการปรับสภาพอาหาร

*** เปิดประเด็นด้วยโพสว่าต่อไป จะเป็นไดอารี่สำหรับการเขียนบันทึกประจำวัน (ถ้าไม่ลืม) ***
      ในที่สุดก็ถึงเวลาปรับสภาพอาหารในการลดน้ำหนักเพื่อให้ลงต่ำกว่า 100 ให้จงได้ ตอนนี้ก็หนักอยู่นะ เพราะปล่อยตัวมา สองเดือนสามเดือนได้ เห็นคนอื่นเค้าซื้อเสื้อผ้ากันแล้ว น่าอิจฉาเนอะ ทำไมเค้าหยิบปั๊บซื้อได้เลย ก็เพราะว่าเค้าหุ่นดีไง มีไซต์ไง เค้าเลยหยิบ แล้วซื้อได้เลย ไอ้เรานี่ ลุ้นกับในเวปว่าจะส่งมาตรงตามที่อยากได้ไม๊ ไม่ได้ลองใส่ด้วย ถ้าใหญ่ ก็ใหญ่โตไปเลย ถ้าเล็ก ก็เล็กได้ใจไปเลย ยัดได้แค่ขา 555 น่าสงสารตัวเองไม๊ล่ะ... มาถึง ณ จุด ๆ นี้ ก็ได้เวลาในการปรับอาหาร และลดน้ำหนักเหมือนเดิมแล้ว นี่ไง เริ่มมาได้สองวัน อาการโหยๆ เริ่มมาแล้วเนี่ย ต่อไปก็จะมาบันทึก และเขียนในนี้ถี่ขึ้นหน่อย เพราะมันไม่ได้เผยแพร่ไปทางไหนให้ใครได้เห็นไงล่ะ google+ ก็ปิดการแชร์ออกไปแล้วด้วย มีนาคม 2019 ก็ปิดใช้งานละ ส่วนใน blogger นี่ก็ปรับเอาปุ่มกด +1 ออกไปแล้ว ก็แปลว่ามันไม่แชร์แล้ว หรือเปล่า? ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เวลาโพสทีไรก็ไม่ได้กดให้มันแชร์นะ หรือมันแชร์อัตโนมัติหว่า ช่างมันเถอะนะ

      นับจากวันนี้ก็หุงข้าวไรท์เบอร์รี่กินต่อ อกไก่อีกตามเคย ไข่ต้ม ไข่ทอด ไข่คน สารพัดเมนูไข่ กินได้สบายๆ ขอเป็นปรับกระเพาะซักหน่อย แล้วค่อยปรับเรื่องอาหารการกิน ว่าจะคุมไปทางไหน ระหว่างคลีน กับคีโต ... ใจจริงๆ ก็อยากคีโตนะ ของโปรดเยอะด้วย กินแล้วสบายๆ หรือจะกินๆ ปนกันไปก็น่าจะได้อยู่หรอก ไม่น่าจะยุ่งยากอะไร ไขมันล้วนๆ 555

      1 เดือนนับจากวันนี้ มาลองดูผลกันว่า 110 จะลงเหลือเท่าไหร่ สามารถกดลงไปจนได้ถึง 100 หรือเปล่า โห สิบโล โหดนะเนี่ย เออ เอาวะ มาลองดูกัน ให้มันรู้กันไป "ว่าจะทำไม่ได้ รักตัวเองเพิ่มขึ้น"

น้องทับทิมกรอบ ในที่สุดก็มา

ศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2561 หลังจากที่เฝ้าดูอยู่นาน จนในที่สุด ก็ตัดสินใจได้ว่า เออ เอามาเหอะ มันใช้แค่ไปทำงาน รับส่งลูก ไม่ได้อะไรมากมาย อนาคต ลูกชายก็เอาไปใช้ได้ เท่านั้นเอง ไม่ต้องคิดเยอะ จัดไป ใกล้ ไกล ค่อยๆ ไป ไม่ต้องรีบ เป็นการปรับอารมณ์ และสมาธิ ได้อย่างดี ลดความใจร้อนลงได้มาก เพราะความเร็ว มันน่ากลัว!!!

Windows 10 ติดตั้ง keyboard UK เพิ่มขึ้นมาเอง (วิธีลบ)

หลังจากที่อัพเดทแบบ auto เอาไว้ ปัญหาก็เกิดสิครับ ไอ้ระบบมันดันดาวโหลดภาษาอังกฤษ UK ใส่มาให้ด้วย ทั้งๆ ที่เครื่องเรามี US อยู่แล้ว เวลาจะใช้งานมันเลยมีภาษาอังกฤษ สองตัว ไทยอีกตัว เหมือนมีคีย์บอร์ด สามอัน เวรกรรม หาวิธีลบในเมนูก็แล้วอะไรก็แล้ว หาไม่เจอ เลยต้องไปค้นหาวิธีดู ได้มาตามนี้ เคลียร์สุดแล้ว ทาง MS แจ้งว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากได้อัพเดท Windows 10 เวอร์ชั่น 1803 สามารถเเก้ปัญหาได้โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

ต้องอธิบายเป็นบรรทัดๆ ไม๊วะ ว่าจะทำอะไรกะมันบ้าง เออ นะ เดี๋ยวจะว่า ไม่ได้บอกไม่ได้เล่าอีก ว่ากันไป - -" อันดับแรก เปิด Windows PowerShell ขึ้นมา ด้วยการคลิกขวาแล้วเลือก Run as Administrator เออ คงไม่ต้องบอกเนอะ ว่ามันจะเอาไปตรงไหน -_-

Get-WinUserLanguageList กด Enter
เรียกระบบภาษาของ user ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันขึ้นมาดูว่ามีอะไรบ้าง

$LangList = Get-WinUserLanguageList กด Enter
ตั้งค่าตัวแปรขึ้นมาตัวนึงชื่อ $LangList (ถ้าขี้เกียจก็เอาซื่อๆ $1 เลยก็ได้) เก็บการเรียกระบบภาษา  

$MarkedLang = $LangList | where LanguageTag -eq "en-GB" กด Enter
กำหนดตัวแปร $MarkedLang (ถ้ายาวก็ $2) ประมาณว่า mark เอาไว้ว่าจะเอาอันไหนตามหัวข้อที่กำหนดเอาไว้ เช่นอันนี้มีคำว่า en-GB ในหัวข้อของ LanguageTag (ดูจาก list ในคำสั่งแรก) "จะเอาไรออก mark อันนั้น จบ"

หมายเหตู : หากคุณต้องการ Remove ภาษาอื่นที่นอกเหนือจาก ( English- United Kingdom ) คุณสามารถเปลี่ยน Code "en-GB" ตาม Code ในลิงค์ > https://msdn.microsoft.com/en-us/library/cc233982.aspx?ppud=4คุณสามารถดู Code ภาษาที่จะเปลียนในช่อง Language tag

$LangList.Remove($MarkedLang) กด Enter
เรียกตัวแปร พร้อมคำสั่ง Remove ตัวภาษาที่ไม่ต้องการออกไป

Set-WinUserLanguageList $LangList –Force กด Enter
กำหนดค่าให้ระบบภาษาของ user ระบบในปัจจุบัน ให้มีเฉพาะในรายการเท่านั้น

หลังจากทำเสร็จแล้ว ให้ทำการ Restart เครื่องทันที ระบบก็จะทำการ set ค่าต่างๆ ของ windows user ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ให้มีเพียงแค่ 2 ภาษา จ๊บ